เพิ่งผ่านการประกาศรายชื่อผู้เข้าชิงลูกโลกทองคำมาหมาด ๆ ทำให้เป็นเหมือนการเตือนว่า เราเข้าใกล้สู่เทศกาลประกาศรางวัลแล้ว ยิ่งเดือนนี้จะเป็นเดือนที่มีหนังน่าสนใจเข้าฉายมากมายตั้งแต่ต้นเดือนถึงปลายเดือน หนึ่งในนั้นคือหนังที่สร้างจากเหตุการณ์จริงของการแข่งขันรถสุดเชือดเฉือนระหว่างรถยนต์ 2 ยี่ห้อที่ฟาดฟันกันด้วยความเร็วบนเส้นทางสุดเดือดที่ประเทศฝรั่งเศสอย่าง Ford v Ferrari
Ford v. Ferrari เล่าเรื่องความทะเยอทะยานของอุตสาหกรรมรถยนต์ Ford ในยุคนั้นนำโดย เฮนรี่ ฟอร์ด ที่สอง เพื่อกระตุ้นยอดขายให้ได้มากขึ้น หากแต่ผลประกอบการที่ไม่น่าพอใจทำให้ทีมการตลาดหวังจะกระตุ้นยอดขายด้วยการส่งรถฟอร์ดนั้นลง การแข่งขัน 24 ชั่วโมงที่เลอม็อง นำโดย แคร์รอล เชลบี้ วิศวกรรถยนต์ อดีตนักแข่งผู้เคยชนะเลอม็องในปี 59 เพื่อหวังพัฒนารถยนต์อเมริกันที่สามารถเข้าชิงชัยและเอาชนะคู่แข่ง Ferrari ได้ เชลบี้ จึงต้องนำเอา เคน ไมล์ส อดีตทหารผ่านศึกและช่างซ่อมนักขับมากฝีมือสุดเลือดร้อนเพื่อมาช่วยพัฒนาและลงแข่งเพื่อเอาชนะเฟอร์รารี่ได้ในการแข่งรถสุดทรหด
หนังเล่าเป็นเส้นตรงแต่ตัดสลับเหตุการณ์ไปสู่ชุดตัวละครหลายตัว ทั้งฝ่ายบริหารที่เป็นคนออกไอเดียการแข่งรถเลอม็อง และ ฟันเฟืองสำคัญอย่าง แคร์รอล เชลบี้ และ เคน ไมล์ส ที่ทำทุกวิถีทางเพื่อพัฒนารถให้เร็วและแรงเพื่อชนะการแข่งขันนั้นได้ ซึ่งถึงแม้หนังจะดัดแปลงจากเหตุการณ์จริง แต่หนังก็เล่าได้อย่างสนุกไม่น่าเบื่อ ทั้งการใส่มุกตลกลงมาได้อย่างชาญฉลาดและจังหวะในการเล่าที่ลื่นไหล มีผ่อน มีเร่ง และเร้าอารมณ์ในฉากแข่งรถซึ่งเป็นเหมือนพระเอกของงานนี้
ส่วนที่ดีมาก ๆ เลยคือ บทที่เขียนมาได้อย่างชาญฉลาดในการเล่าเหตุการณ์ที่สร้างจากเรื่องจริงได้อย่างไม่น่าเบื่อ ประกอบกับการกำกับของ เจมส์ แมนโกลด์ ที่คุมจังหวะหนังได้ดีเยี่ยม เปรียบเสมือนส่งหนังเรื่องนี้ไปแข่งเลอม็องก็มิปาน มีทั้งจังหวะที่เล่าตรงยาว ผ่อนเข้าโค้งซ้าย แวะแทรกมุกเติมอารมณ์ขันนิดหน่อย ก่อนเร่งจังหวะเพื่อเข้าทางตรง
ส่วนต่อมาก็คือ การแสดงของชุดนักแสดงที่ทำหน้าที่รับส่งการแสดงได้อย่างดี โดยเฉพาะในรายของ คริสเตียน เบล ที่สวมบท เคน ไมล์ส ได้อย่างน่าประทับใจ ในลีลาท่าทางช่างซ่อมรถบ้านทุ่งหุนหันพลันแล่นสุดบ้านทุ่ง ที่จะแย่งซีนตัวละครอื่นได้ในทุกฉากที่เขาปรากฎตัว นอกจากนี้ในฉากสำคัญอย่าง ฉากแข่งรถก็เร้าอารมณ์ได้ดีเหลือเกิน ทั้งในเสียงเครื่องยนต์และยานที่เสียดสีกับยางมะตอยก็สร้างความระทึกระหว่างดูได้อย่างดีเยี่ยม
ข้อเสียในเรื่องนั้นแทบไม่มี เพราะในทุกทางที่หนังนำเสนอ ฉากแอ็คชั่นที่มีการแข่งรถเป็นตัว อารมณ์ขันที่ใส่มาถูกจังหวะ แถมเหตุการณ์จริงที่สร้างแรงบันดาลใจ แทบจะตีแผ่ระบบทุนนิยมที่ขายฝันทำให้เราสะเทือนจนแทบสะอึก
แน่นอนว่าหนังที่ให้แรงบันดาลใจแบบนี้ มักจะมาพร้อมอุปสรรคเสมอ และจากเหตุการณ์จริงที่ฟอร์ดคว้าชนะเหนือเฟอร์รารีในการแข่งขันรถ 24 ชั่วโมงที่เลอม็องในปี 1966 ทำให้เราอยากรู้ถึงเคล็ดลับ แต่ทั้งที่หน้าหนังเปรียบเสมือนเป็นการแข่งกันระหว่าง Ford v Ferrari นั้น แต่อุปสรรคแท้จริงสำหรับ เชลบี้ และ ไมล์ส คือตัวปัจจัยภายในอย่างฟอร์ดเองเสียมากกว่า จึงน่าเสียดายที่บางครั้งฟันเฟืองที่ขับเคลื่อนตัวรถให้พุ่งทะยานไป อาจไม่สำคัญเท่าโลโก้แบรนด์ที่แปะอยู่หน้ารถ
สรุปแล้ว Ford v Ferrari คือหนังที่สร้างจากเหตุการณ์จริงที่พร้อมให้แรงบันดาลใจ มาพร้อมฉากแข่งรถสุดระทึกจนลืมหายใจ อีกทั้งยังเฉียบคมในจังหวะเล่าเรื่องที่ลื่นไหลไม่สะดุดตัดสลับกับอารมณ์ขันที่ใส่มาอย่างชาญฉลาดและการแสดงที่น่าประทับใจ โดยเฉพาะ คริสเตียน เบล ที่สวมบทนักขับชาวอังกฤษได้อย่างเก่งกาจและมีเสน่ห์มาก
4.5 / 5
Movie Trivia 