Pacific Rim 3 ยังไม่มีแผนสร้างในตอนนี้ แม้เคยถูกวางให้เป็นจุดร่วมกับจักรวาลก็อตซิลล่า MonsterVerse

ในหนังภาคต่อมากมาย ซึ่งก่อกำเนิดเป็นแฟรนไชส์ โดยเฉพาะในค่ายลูกหม้ออย่าง Warner Bros. ซึ่งกำลังถือสิทธิจักรวาลอสูรกาย MonsterVerse อยู่ในมือ ครั้งหนึ่งก็เคยถือกำเนิดหนังอสูรกายที่มีกลิ่นอายคล้ายกันอย่าง Pacific Rim ของผู้กำกับ ฯ กีแยร์โม เดล โตโร่ ในปี 2013 ซึ่งเป็นเจ้าของคำวิจารณ์ที่ดีและมีแฟนคลับรอคอยภาคต่ออย่างล้นหลาม ก่อนที่มันจะล้มเหลวลงจากการเข้าฉายของ Pacific Rim : Uprising ในปี 2018 และดับฝันแฟรนไชส์ลง แม้ว่าตัวหนังจะไปถูกสานต่อในแอนิเมชั่นซีรีส์อย่าง Pacific Rim : The Black แทน

ซึ่งอ้างอิงจากการที่ เดล โตโร่ เคยให้สัมภาษณ์กับทาง Collider ในปี 2017 ซึ่งเขาก็ได้เปิดเผยถึงสาเหตุที่เขาไม่ได้มากำกับภาค Uprising เหตุก็เพราะจังหวะและโอกาสไม่เหมาะ ทำให้เขาหันไปกำกับ The Shape of Water ซึ่งทำให้เขาได้มาซึ่งออสก้าร์ตัวแรก

“จังหวะมันแย่ไปหมด ผมมีโครงการหนังเล็ก ๆ เรื่องนี้ซึ่งผมอยากจะทำมาก ๆ นั่นคือ The Shape of Water จนถึงจุดหนึ่งที่ผมต้องเลือกทำ Justice League Dark กับ Pacific Rim ผมเลยตัดสินใจ ‘ทำ Pacific Rim กันเถอะ!'”

“แต่ในความจริงที่พวกเขาพูดก็คือ ‘เราจำเป็นต้องเลื่อนออกไป’ เพราะอำนาจกำลังเปลี่ยนมือ เนื่องจาก Legendary ถูกขายให้บริษัทในประเทศจีนอย่าง Wanda Group จากนั้นเขาก็พูดว่า ‘คุณต้องรอไปประมาณ 9 เดือน’ ซึ่งผมก็แบบ ‘ผมจะไม่รอ 9 เดือนหรอก ผมจะสร้างหนัง’ ผมเลยหันไปทำ The Shape of Water และเลือกสตีเว่น ดีไนท์ มากำกับแทน” เดล โตโร่ กล่าว

ทั้งนี้ เดล โตโร่ ได้เผยเพิ่มเติมผ่านทางทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า เขาไม่มีแผนจะกลับมากำกับแต่อย่างใด แม้โดยส่วนตัวเขาจะรักในทุกองค์ประกอบที่ปรากฎในหนังภาคแรก รวมถึงความน่าจะเป็นที่จะได้เห็นจักรวาลแปซิฟิคริมมาร่วมกับจักรวาลอสูรกาย MonsterVerse

“โดยส่วนตัว ผมรักในแสงสีนีออน สมรภูมิการรบบนน่านน้ำ อาคารบ้านเรือนถล่มทลาย และอื่น ๆ รวมถึงการที่จักรวาลแปซิฟิคริม อาจจะมีตัวตนอยู่ร่วมกับจักรวาลไคจูของ Legendary อย่างลับ ๆ และไม่แน่ ในวันหนึ่งทั้งสองจักรวาลอาจปะทะกันก็ได้”

“แต่นี่พูดในฐานะแฟนหนังนะ ไม่มีแผนกลับไปทำแล้ว” เดล โตโร่ กล่าวบนทวิตเตอร์

ผู้กำกับ ฯ Pacific Rim : Uprising อย่าง สตีเว่น ดีไนท์ เอง ก็เคยออกมายืนยันผ่านทางทวิตเตอร์เช่นกัน ถึงการเป็นจุดร่วมกันระหว่างจักรวาลแปซิฟิคริมและจักรวาลอสูรกายไคจูว่า เคยเป็นแผนระยะยาวสำหรับแฟรนไชส์ Pacific Rim โดยจะมีจุดเริ่มต้นในภาคที่สาม

“นั่นเป็นแผนระยะยาวของผม ที่ Pacific Rim 3 จะถูกวางโครงสร้างไว้ ในฐานะที่สองจักรวาลจะโคจรมาบรรจบกัน”

แม้ว่าจะน่าสนใจมาก ๆ ที่ เราอาจจะได้เห็นเยเกอร์มาโรมรันปะทะกับก็อตซิลล่าหรือแม้กระทั่งคอง แต่โอกาสที่เราจะได้เห็น Pacific Rim 3 เกิดขึ้นก็น้อยมาก ๆ เนื่องด้วยสาเหตุสำคัญในเรื่องรายได้ที่ตัวหนัง Pacific Rim ภาคแรก ก็ประสบความสำเร็จในระดับกลาง ๆ ด้วยรายได้ $411 ล้านเหรียญจากทุนสร้างระดับ $190 ล้านเหรียญ

ซึ่งนี่ก็เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ตัวหนังภาคต่ออย่าง Uprising เกิดขึ้นล่าช้าและทิ้งช่วงจากภาคแรกยาวนานถึง 5 ปี และการเข้าฉายของภาคต่อนี้ ก็เป็นการตอกฝาโลงกลาย ๆ เพราะตัวหนังขาดทุน และทำเงินไปได้เพียง $290 ล้านเหรียญ ทั้งที่ใช้ทุนสร้างเพียง $155 ล้านเหรียญเท่านั้น นั่นทำให้โอกาสที่จะเกิดภาคสามนั่น แทบไม่เกิดขึ้น

แต่อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ได้แปลว่า แฟรนไชส์ Pacific Rim จะตายไปเลยเสียทีเดียว เพราะจากกระแสที่ตัวซีรีส์แอนิเมชั่น Pacific Rim : The Black บน Netflix ก็ค่อนข้างดี และตัวหนังเรื่อง ๆ หนึ่งก็มีช่องทางในการให้รับชมมากกว่าเดิม โดยเฉพาะทางแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง ก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะทำให้ภาคต่ออย่าง Pacific Rim 3 ได้เกิดขึ้น

อย่างไรก็ดี ผลงานชิ้นถัดไปของ กีแยร์โม่ เดล โตโร่ อย่าง Nightmare Alley มีกำหนดฉายในประเทศไทย 20 มกราคม 2022 นี้

สามารถติดตาม Movie Trivia เพิ่มเติมได้ที่
แฟนเพจ Facebook, Blockdit และ Threads

ใส่ความเห็น