การทำงานในอุตสาหกรรมภาพยนตร์เป็นสถานที่ ๆ มักจะพบเจอกับบุคลากรมากหน้าหลายตา มากน้อยประสบการณ์ต่างออกไปครับ ซึ่ง เดนิส วิลล์เนิฟ ในทศวรรษนี้ก็ถือเป็นผู้กำกับ ฯ ที่มีผลงานคุณภาพมากมายและถือว่ามีฝีมือในการกำกับระดับนึง โดยเฉพาะผลงาน 2 เรื่องล่าสุด ซึ่งเป็นหนังฟอร์มยักษ์ทั้งสิ้น เช่น Blade Runner 2049 และ Dune ที่รอเข้าฉายสิ้นปีนี้
โดยล่าสุด วิลล์เนิฟ ก็ได้ไปนั่งพูดคุยกับ โรเจอร์ ดีกินส์ ผู้กำกับภาพเจ้าของ 2 รางวัลออสก้าร์ในพ็อดแคสท์ Team Deakins และพูดถึงสิ่งต่าง ๆ ทั้งการทำงานร่วมกัน รวมถึง ผลงานที่ทั้งคู่ได้ร่วมงานด้วยกัน และ เปิดเผยว่า ดีกินส์ ทรงอิทธิพลต่อการทำงานของเขาใน Dune ขนาดไหน
“ตอนที่ผมได้ทำงานร่วมกับคุณ ผมเหมือนได้อยู่ในที่ ๆ ผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทำหนังตลอดเวลา ผมได้เรียนรู้กระบวนการทำงานจากคุณ มันเหมือนได้ทั้งรางวัลและความน่าตื่นเต้นในคราวเดียวกัน ตอนนี้ซึ่งผมกำลังทำเทคนิคภาพพิเศษให้กับ Dune อยู่ และผมค้นพบตัวเองกำลังคุยเกี่ยวกับเรื่องแสงและร้องขอให้สิ่งต่าง ๆ จนผมรู้ตัวว่า ‘เป็นเพราะโรเจอร์’ ผมรู้เลยว่า ผมทำทุกอย่างได้ก็เพราะโรเจอร์”
“ในบางครั้งผมก็ตระหนักว่า ผมได้เรียนรู้อะไรจากคุณมามากแค่ไหน ผมไม่ได้บอกว่า คุณจะเห็นด้วยกับผมเวลาคุณมองเห็นอะไรบางอย่าง แต่ผมแค่รู้ถึงความรู้สึกอ่อนไหวต่อบางอย่างที่ผมรู้สึกมากขึ้นเมื่อได้ทำงานร่วมกับคุณและใน Blade Runner มันเหมือนเป็นประสบการณ์ที่ก่อเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น การได้ออกแบบหนังจากสตอรี่บอร์ดจนถึงหนังเสร็จเคียงข้างคุณ มันเต็มไปด้วยสิ่งที่ผมได้เรียนรู้มากมาย” วิลล์เนิฟ กล่าว
นอกจากนี้ วิลล์เนิฟ ยังพูดถึงผลงานอย่าง Blade Runner 2049 ซึ่งถือเป็นงานภาคต่อจากหนังไซไฟคลาสสิคที่แม้จะไม่ประสบความสำเร็จทางรายได้ แต่ก็มักจะได้รับการพูดถึงอยู่บ่อย ๆ ที่เนื้อหาและงานสร้างของหนังที่มีเอกลักษณ์ โดยเจ้าตัวเผยว่า ยังไม่สามารถกลับไปหนังเรื่องนี้ได้ในตอนนี้
“มันเป็นหนังที่ผมไม่สามารถจะกลับไปดูได้อีกรอบแล้ว เพราะมันต้องใช้เวลาในการประมวลสิ่งต่าง ๆ และทำใจให้สบายต่อหนังของตัวคุณเอง สำหรับผม เวลาคุณทำหนัง มันจะเต็มไปด้วยความสุขยิ่งยวด ความเจ็บปวด และ ความเกรี้ยวกราด ที่เชื่อมโยงกับกระบวนการทำงานทั้งหมด เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น ผมมักใช้เวลาหลายปีในการกลับไปดูมันอีกครั้งว่ามันเป็นอย่างไรบ้าง และสำหรับผม คงยังไม่ถึงเวลาสำหรับ Blade Runner” วิลล์เนิฟ กล่าว
แม้ใน Dune วิลล์เนิฟจะได้ร่วมงานกับ เกร็ก เฟรเซอร์ ผู้กำกับภาพจาก Rogue One และเคยเข้าชิงออสก้าร์จากผลงานเรื่อง Lion แทน ดีกินส์ แต่การทำงานต่าง ๆ ลุล่วงไปได้ด้วยดี แต่เหมือนการสร้างหนังฟอร์มยักษ์ติดกัน 2 เรื่องจาก Blade Runner 2049 มา Dune ทำให้ วิลล์เนิฟเหนื่อยจนหมดไฟพอสมควรและพร้อมจะกลับไปจับหนังสเกลเล็กหลังจากนี้
“มันจะดีต่อผมมาก ถ้าได้กลับไปทำหนังเล็ก ๆ อีก มันจะดีแน่ ๆ ถ้าผมได้กลับไปทำหนังสเกลแบบ Sicario อีก ที่ ๆ ผมไม่ต้องนั่งเพ้อถึงการออกแบบรถหรือการออกแบบกระเป๋าสตางค์หรือแม้กระทั่งปืนร่วมเดือน แค่ผมต้องอ้าแขนรับรูปแบบของหนังและมันคงจะดีที่ได้กลับไปทำหนังแบบนั้น”
Dune กำกับโดย เดนิส วิลล์เนิฟ จากบทที่เขียนร่วมกับ อีริค รอธ และ จอห์ส สเปธส์ นำแสดงโดยชุดนักแสดงคับคั่ง ทิโมธี ชาลาเมต, รีเบคก้า เฟอร์กูสัน, จอช, โบรลิน, เดฟ บาติสต้า, สตอลเลน สการ์การ์ด, เดวิด ดาสมาลเชี่ยน, ชาลอตต์ แรมพ์ปลิง, ออสก้าร์ ไอแซค, เซนดาย่า, ฮาเวียร์ บาร์เดม และ เจสัน โมมัว
Dune มีกำหนดฉาย ธันวาคม 2020
Movie Trivia 