Universal ปิดดีลซื้อสิทธิจำหน่ายไตรภาค The Exorcist พร้อมได้ อัลเลน เบอร์สตีน จากต้นฉบับกลับมาร่วมแสดง

หลังรายงานการสร้างภาคต่อหนังผีสุดอมตะ The Exorcist ของ Blumhouse เมื่อปลายปีที่แล้ว พร้อมได้ เดวิด กอร์ดอน กรีน จากไตรภาค Halloween มารับหน้าที่กำกับและเขียนบท ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นภาคต่อจากภาคแรกในปี 1973 ของวิลเลียม ฟรีดคิน และจะทำหน้าที่คล้าย ๆ Halloween ในปี 2018 ที่เป็นทั้งรีบูตและภาคต่อโดยตรง

ล่าสุดรายงาน The New York Times เผยว่า Universal Pictures และแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง Peacock ได้ทำเซ็นสัญญาทำข้อตกลงซื้อสิทธิจำหน่ายและสร้างไตรภาค The Exorcist เป็นมูลค่ารวมกว่า $400 ล้านเหรียญ ซึ่งถือว่ามีมูลค่าอยู่ในระดับเดียวกับสัญญาที่ Netflix เข้าซื้อสิทธิจำหน่ายและสร้าง Knives Out ของไรอัน จอห์นสัน เมื่อช่วงปีที่ผ่านมา

โดย Morgan Creek Entertainment ซึ่งถือสิทธิในตัวหนัง The Exorcist มาโดยตลอด ก็ได้ทำการตกลงจะรีบูตใหม่ร่วมกับทาง Blumhouse เพื่อสร้างภาคต่อโดยตรงให้กับหนังต้นฉบับในปี 1973 แต่ก็ยังติดปัญหาในแง่ของการจัดจำหน่าย เพราะสิทธิจัดจำหน่ายคาบเกี่ยวกันระหว่าง 3 สตูดิโอ

ได้แก่ Universal ซึ่งเป็นพันธมิตรจัดจำหน่ายของ Morgan Creek และเจ้าของสิทธิจำหน่ายหลักของ Blumhouse, Warner Bros. ซึ่งได้ทำการจำหน่ายตัวหนัง Exorcist สองภาคแรกและภาคต้นอีกสองภาค และ Sony Pictures ซึ่งถือสิทธิการจัดจำหน่ายผลงานของ Morgan Creek มาตั้งแต่ปี 2016 แต่แล้วสุดท้าย Universal Pictures ก็ชนะการประมูลสิทธิไป

นอกจากนี้ ในรายงานยังเผยด้วยว่า อัลเลน เบอร์สตีน กลับมารับบทเป็น คริส แม็คเนล จากตัวหนังต้นฉบับ อีกทั้งยังได้ เลสลีย์ โอดอม จูเนียร์ มารับบทเป็นตัวละครใหม่อย่างพ่อผู้ที่ลูกถูกปีศาจเข้าสิง และตามหาตัวละครของเบอร์สตีน เพื่อขอความช่วยเหลือ

ทั้งนี้ กรีน ยังเผยด้วยว่า ตัวหนัง The Exorcist ภาคแรกจากไตรภาคใหม่ ถูกวางกำหนดฉายไว้ 13 ตุลาคม 2023 และมีความเป็นไปได้ที่ ภาคสองและสาม อาจจะได้ฉายบนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง Peacock แทน ซึ่งอาจเป็นหนึ่งในเงื่อนไขจากการเข้าซื้อสิทธิจำหน่ายหนังเรื่องนี้

สามารถติดตาม Movie Trivia เพิ่มเติมได้ที่
แฟนเพจ Facebook, Blockdit และ Threads

ใส่ความเห็น